วิ่งอย่างไรให้เก่งขึ้น


ท่านที่วิ่งอยู่แล้วทุกวัน ใช้เวลาเท่าเดิม แต่สามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมได้ ถ้าเราวิ่งเหมือนเดิมทุกวัน คือวิ่งเวลาเท่าเดิม ความเร็วเท่าเดิม ระยะทางเท่าเดิม ก็จะสามารถรักษาความฟิตซ้อมหรือความแข็งแรงของเราไว้ได้ในระดับนั้น ถ้าต้องการให้วิ่งเก่งขึ้น ก็จะวิ่งไม่เหมือนกันในแต่ละวัน มีวันหยุดพัก วันวิ่งเร็วและวันวิ่งยาว

ก่อนที่จะอ่านตอนนี้แล้วนำไปปฏิบัติ  อย่างน้อยก็ต้องวิ่งเหยาะๆให้ได้วันละ 20-30 นาทีติดต่อกัน  ถ้ายังทำไม่ได้ให้กลับไปทำตามตารางที่ 1 หรือตารางที่ 2  จนกว่าจะวิ่งวันละ  20-30 นาทีติดต่อกันได้ก่อน  ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพของท่านเองนะครับ

 

        ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่าเก่งขึ้นนั้นไม่ใช่ให้เป็นแชมป์วิ่ง  หรือนักวิ่งมาราธอนนะครับ  เพียงแต่ต้องการให้ท่านที่วิ่งอยู่แล้วทุกวัน  ใช้เวลาเท่าเดิม  แต่สามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมได้  จะดีขึ้นเล็กน้อย  หรือจะดีขึ้นขนาดเป็นแชมป์วิ่งหรือเป็นนักวิ่งมาราธอนที่เก่งกาจก็ไม่ว่ากันนะครับ  อยากจะให้ร่างกายแข็งแรงแค่ไหนก็อยู่ที่ตัวเราเองจะตั้งใจกำหนดเป้าหมายและฝึกซ้อมให้ได้ตามนั้น  อาจารย์หมออุดมศิลป์เคยกล่าวไว้ว่า  คนเราถ้าเดินได้สบายๆก็สามารถฝีกจนวิ่งมาราธอนได้  อยู่ที่ต้องการจะทำหรือไม่

 

        ก่อนจะฝึกต่อไปให้เก่งอยากให้ย้อนกลับไปอ่าน  สุขภาพที่ดี หมายความว่าอย่างไร   และ ขั้นตอนการออกกำลังกาย อีกสักครั้งนะครับ  เพราะอยากให้ระวังตัวไว้ตลอด  ไม่ประมาทจนเกิดการบาดเจ็บหรือเกิดอันตรายกับชีวิต  การฝึกก็ไม่ต้องใจร้อน  เพราะเราคงตั้งใจจะวิ่งไปตลอดชีวิต  ค่อยๆฝึกไปให้ปลอดภัยจะดีกว่า  แต่ถ้าสภาพร่างกายดี  ไม่มีปัญหาอะไรก็สามารถฝึกให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วได้  ถ้าน้ำหนักยังเกินอยู่มากก็ควรจะลดน้ำหนักลงมาให้อยู่ในเกณฑ์ปกติก่อน

 

        ในการวิ่ง  ถ้าเราวิ่งเหมือนเดิมทุกวัน  คือวิ่งเวลาเท่าเดิม  ความเร็วเท่าเดิม  ระยะทางเท่าเดิม  ก็จะสามารถรักษาความฟิตซ้อมหรือความแข็งแรงของเราไว้ได้ในระดับนั้น  ถ้าพอใจระดับนี้ก็ไม่เป็นไร  ไม่มีใครว่าอะไรได้  เพราะร่างกายเรา  สุขภาพเราเอง

 

        แต่ถ้าคิดว่าไหนๆก็เสียเวลาวิ่งเกือบทุกวันแล้ว  หากใช้เวลาเท่าเดิมหรือมากขึ้นเล็กน้อย  แล้วสุขภาพร่างกายจะดีขึ้นกว่าเดิมได้ก็เชิญเลยนะครับ

         ถ้าต้องการให้วิ่งเก่งขึ้น  ก็จะวิ่งไม่เหมือนกันในแต่ละวัน

จันทร์ อังคาร พุธ หฤหัสฯ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
พัก วิ่งปกติ วิ่งปกติ วิ่งเร็ว วิ่งปกติ วิ่งปกติ วิ่งยาว
       

        วิ่งปกติหมายความว่า  ถ้าวิ่งอยู่วันละ  20 นาที  ได้ระยะทาง 2 กม. ก็ให้วิ่งเหมือนเดิม  ถ้าต้องการเพิ่มระยะเวลาขึ้นก็ค่อยๆเพิ่ม  แนะนำให้เพิ่มเดือนละ 10%  ( ถึงแข็งแรง  เต็มที่เลยก็ไม่ควรเพิ่มเกินอาทิตย์ละ 10% )  นั่นคือเดือนถัดไปก็เพิ่มเวลาเป็น 22 นาที  24,26,28,30,32,34,36,38 จนถึง 40 นาที ตามลำดับ ( ไม่แนะนำให้วิ่งเกินวันละ 40 นาที )  ใช้เวลาประมาณ 1 ปีก็สามารถเพิ่มเวลาวิ่งเป็นวันละ 40 นาทีแล้ว  แต่ถ้าพอใจที่วันละ 30 นาที  ก็หยุดที่ระดับนั้น

 

        วิ่งเร็ว หมายถึงการฝีกแบบ Interval Training  หรือ Fartlek  แล้วแต่ชอบหรือถนัด  การฝีกวิ่งแบบนี้เป็นการฝึกปอดและหัวใจ ( Cardiovascular Training )  ทำให้ฝีเท้าดีขึ้น  คือวิ่งได้เร็วขึ้น  การฝึกซ้อมทั้ง 2 แบบนี้จะเล่าให้ฟังในตอนต่อไปนะครับ

 

        วิ่งยาว  เป็นการฝึกความทนทานหรือความอดทน ( Endurance )  ถ้าไม่เคยฝึกมาก่อน  ก็ค่อยๆเพิ่มระยะเวลาขึ้น  แต่อย่าลืมลดความเร็วลงเล็กน้อยนะครับ  สบายๆก็เดือนละ 10% ก็ได้  ถ้าเริ่มที่วันละ 20 นาที  เพิ่มเดือนละ 2 นาที  ก็ใช้เวลา 20 เดือนหรือ 2 ปีก็จะสามารถวิ่งยาวได้ 60 นาที หรือ 1 ชั่วโมงแล้ว  ถ้าท่านแข็งแรงก็อาจใช้เวลาน้อยลง  ( แต่อย่าหักโหมนะครับ  เต็มที่ไม่เกินอาทิตย์ละ 10% )

 

        คงได้หลักหรือแนวทางในการฝึกเพื่อให้เก่งขึ้นแล้วนะครับ  ก็ยังเป็นห่วงกลัวจะหักโหมนะครับ  ถ้าขณะฝึกมีอาการผิดปกติเช่น เวียนศีรษะ คลื่นใส้  จะเป็นลม  หายใจไม่ออกหรือหายใจไม่ทัน  ใจสั่น  แน่นหรือเจ็บหน้าอก หูอื้อ  ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายไม่ได้  ก็ค่อยๆลดความเร็วลงแล้วหยุดพัก  ถ้าอาการไม่ดีขึ้นต้องรีบไปพบแพทย์นะครับ

         หรือแม้แต่ถ้ามีอาการนอนไม่หลับ  ก็อาจเกิดจากการฝึกที่หนักเกินไป ( Overtrain ) ก็ค่อยๆลดการฝึกลง  อย่าหักโหมนะครับ  มีเวลาอีกตั้งนาน  เพราะเราตั้งใจจะวิ่งเพื่อสุขภาพ  และตั้งใจจะวิ่งไปตลอดชีวิตของเรา  ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหรือหักโหมจนเกิดบาดเจ็บหรือเป็นอันตรายนะครับ   
หมายเลขบันทึก: 87935เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2007 22:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)
อิอิ มาทิ้งรอยแล้ว หลบไปนอนผึ่งพุงค๊า..

คุณหนิงมาอ่านตอนนี้  แสดงว่าเป็นนักวื่งแล้ว  ต้องการฝึกเป็นนักวิ่งมาราธอนหรือจะฝึกเป็นแชมป์วิ่งครับ  ได้ถ้วยเมื่อไหร่ถ่ายรูปมาให้ดูด้วย  ที่บ้านมีแต่เหรียญกับรางวัลอุตส่าห์มาวิ่งจนครบระยะ  อิอิ

ขอขอบพระคุณอาจารย์ "คนชอบวิ่ง"

  • บันทึกนี้น่าอ่านมากครับ เชื่อมั่นว่า จะเป็นประโยชน์ต่อนักวิ่ง นักเดิน และคนที่ใส่ใจสุขภาพอย่างกว้างขวางทีเดียว
  • ผมออกกำลังทุกวัน... สัปดาห์หนึ่งจะ "เดินไกล" ประมาณ 1 ชั่วโมงขึ้นไป
  • มาอ่านเรื่องของอาจารย์ทำให้ได้ข้อคิด และสาระเพิ่มมากมายครับ

ขอบคุณนพ. วัลลภ พรเรืองวงศ์ มากครับที่แวะมาให้กำลังใจ  อ่านของคุณหมอบ่อยแต่ไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้ครับ

  • อ้อยังไม่ได้เป็นนักวิ่งนะคะ 
  •  แม้จะเล่นกีฬาอย่างอื่น แต่ก่อนเล่น ก็ต้องวิ่งเหยาะ ๆ ก่อนเล่นอย่างอื่นเช่นเคยค่ะ
  • ทราบมาว่า...การเป็นนักวิ่งมาราธอน ชัยชนะไม่ได้วัดที่ความเร็วสูงสุด แต่วัดกันที่ความสม่ำเสมอและความต่อเนื่อง
  • การวิ่ง...เป็นการฝึกตนเองกับความสม่ำเสมอได้อีกเช่นกันใช่ไหมคะ
  • ขอบคุณข้อมูลการวิ่งค่ะ

การเล่นกีฬาทุกชนิดมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้นครับคุณอ้อ - สุชานาถ   ไม่จำเป็นต้องมาวิ่งถ้าไม่ชอบ

แต่อยากให้หาอะไรที่ชอบสักหนึ่งอย่างไว้เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค  เพราะอายุมากขึ้นกีฬาบางประเภทอาจเริ่มไม่เหมาะกับวัยนะครับ

ไม่ได้แนะนำให้เป็นนักวิ่งมาราธอนหรอกนะครับ  เฉพาะคนที่ชอบหรือบ้าเข้ากระดูกดำเท่านั้น  แต่ต้องศึกษาให้ดีและระวังอย่าให้เกิดการบาดเจ็บหรือเป็นอันตราย   สำหรับบางคนการได้เข้าร่วมแข่งขันและสามารถวิ่งครบระยะทางในเวลาที่กำหนดไว้ก็ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วครับ  คล้ายๆกับการเขียน blog น่ะครับ  ขอให้ได้มีส่วนในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ก็มีความสุขมากแล้วครับ

ตามมาอ่านหลายบันทึกแล้ว....

แต่ยังไม่ได้เริ่มเลยครับ ยังหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองอยู่เรื่อย ๆ ครับ...

แย่จังครับ...

เอาใจช่วย Mr.Direct นะครับ  เขียนติดข้างฝาไว้เลย " จะเริ่มออกกำลังกาย " 

หรือจะเขียนสัญญาใจไว้ก็จะดี  ตัวอย่าง (โทษทีเป็นภาษาอังกฤษ  ช่วยทำสัญญาใจเป็นภาษาไทยส่งมาแบ่งกันใช้มั่งซิ ขอบคุณล่วงหน้าครับ )

ผมวิ่งไม่ไหว น้ำหนัก 80 แล้ว ต้องเริ่มไงดี

ตอนผมเริ่มน้ำหนักตัว 90 กก. ครับลูกพ่อพิฆเนศ  เริ่มลดน้ำหนักตัวพร้อมกับเริ่มเดิน  หรืออาจใช้การออกกำลังกายแบบอื่น  เลือกเอาที่ชอบก็แล้วกันนะครับ

ที่สำคัญคือความตั้งใจ  เขียนสัญญากับตัวเองแล้วแปะติดข้างฝาไว้เลยครับ  แนะนำให้อ่าน  blog คนเคยอ้วน  กับ Let's go jogging ให้จบนะครับ  พิมพ์เอาไว้อ่านเลยก็สดวกดีครับ

ผมไม่มีเวลาวิ่งครับตามที่แนะนำได้เพราะต้องเรียนทุกวัน อยากทราบว่ามีวิธีวิ่งเร็วและใช้เวลาน้อยบ่าวครับ เพราะผมต้องวิ่งแข่งกีฬาสีที่โรงเรียนครับ

แนะนำให้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพครับ

การวิ่งเพื่อการแข่งขันแล้วทำไม่ถูกวิธีเป็นอันตรายต่อสุขภาพครับ

ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ

ผมอ่านเวปของอาจารย์แล้วได้ความรู้มาก

เมื่อก่อนก็ออกกำลังกายประจำ คือ วิ่ง และนึกว่าการวิ่งคงไม่ต้องมีความรู้อะไรมาก

แต่พึ่งรู้ว่า วิ่งไม่ถูกต้องอาจถึงขั้นตายได้ บางวันผมวิ่งหักโหม แน่นหน้าอกหน้ามืด

แต่ก็ไม่เป็นลม คิดว่าไม่มีอะไรมาก ถือว่าโชคยังดีที่ไม่เป็นอะไร

แต่หลังจากอ่านเวปของอาจารย์แล้วได้ความรู้ที่ไม่เคยรู้มาก่อน

กระผมจึงอยากขอบพระคุณอาจารย์จริงๆครับผม

ขอบคุณครับอาจารย์ สำหรับข้อคิดดีๆ ผมเคยอ้วนน้ำหนัก อยู่ที่115 โล ตอนนี้อยู่ที่ 80โลครับ และผมก็เลิกเหล้า บุหรี่ได้ประมาณ 2ปีแล้วครับ ผมมีปัญหาในการฝึกผมจะหักโหมมากๆเลย พอได้อ่านของอาจารย์และทำดูก็ได้ผลมากครับ ไม่ว่าจะเป็นการหายใจ การลงเท้าและการฝึกแต่ละวัน ขอบคุณนะครับ

ตอนนี้ลดความอ้วนอยู่ค่ะ...น้ำหนักเดิมอยู่ที่67ก.ก.เมื่อ4เดือนที่ผ่านมา เริ่มลดน้ำหนักเมื่อเดือน พ.ย.ค่ะ ตอนนี้น้ำหนักอยู่ที่56ก.ก. ลดความอ้วนโดยการควบคุมอาหาร ไม่ใช้ยาใดๆทั้งสิ้น แต่ออกกำลังกายแค่การเดินเมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา วันละ1ช.ม. และตอนนี้เริ่มออกวิ่งได้2วัน วันละ30-40นาที อย่างนี้เป็นการหักโหมไปหรือเปล่าค่ะ คืออยากให้พุงที่ยื่นลดเร็วๆนะค่ะ และกล้ามเนื้อที่ห้อยๆและหย่อนคล้อยกระชับเร็วขึ้น เพราะเป็นคนมีบุตรสองคนแล้วค่ะ ดิฉันอายุ36ปี และอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ อากาศหนาวมาก และมีบางวันที่ไม่สามารถออกไปวิ่งได้ เพราะมีหิมะตกอย่างแรง จึงอยากได้คำแนะนำว่าควรจะออกกำลังกายแบบไหนดีค่ะเมื่อต้องอยู่แต่ในบ้าน

พงศ์พัฒน์ เรืองนวล

พี่คับแนะนำผมหน่อย ผมจะไปสอบ ปภ ต้องวิ่ง 1 กิโล ต้องใช้เวลา 4 นาที ตอนนี้ผมซ้อมวิ่งได้ 1 เดือนแล้ว เมื่อวานก่อนผมได้ลองจับเวลาที่หลักกิโลบนถนนวิ่ง 1 กิโล ผมใช้เวลา 4.25 นาที พี่ช่วยแนะนำผมหน่อยให้วิ่งได้ทันภายใน 4 นาทีหน่อยคับ ขอบคุณคับพี่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท