'สวัสดี' เป็นคำทักทายของคนไทย ซึ่งจะใช้เมื่อแรกพบกัน หรือเมื่อต้องการจากลา โดยยกมือสองข้างขึ้นมาประกบกัน ยกขึ้นมาประสานกันเป็นรูปดอกบัวตูม แล้วก้มลงให้หน้าผากสัมผัสกับปลายนิ้ว จะสัมผัสนิ้วไหนนั้นขึ้นอยู่กับบุคคลที่เรายกมือสวัสดีด้วย ว่าอายุมากกว่าหรือน้อยกว่าคนไหว้ ถ้าไหว้พระให้นิ้วโป้งจรดระหว่างคิ้ว ถ้าไหว้พ่อแม่หรือบุพการีให้นิ้วโป้งจรดตรงจมูก ถ้าไหว้ครูบาอาจารย์ให้นิ้วโป้งจรดตรงปาก ส่วนไหว้คนที่เด็กกว่าก็ให้ไหว้หรือรับไว้ด้วยการยกมือขึ้นประกบกันระหว่างอก นอกจากนั้นแล้วการไหว้ยังมีความหมายแฝงมากมาย เช่น การให้ความเคารพต่อผู้มีพระคุณ การนอบน้อมถ่อมตน  ฯลฯ
 

      เมื่อสามปีที่แล้ว ป้าคนนี้ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้าน เป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง หรือเรียกอีกชื่อว่า 'โผล่ง' พวกเราเข้าไปหมู่บ้านครั้งแรก แล้วยกมือไหว้สวัสดี ป้าก็จะบ่น ๆ บอกว่า ยกมือไหว้แกทำไม พร้อมกับทำท่าเอียงอาย เพราะไม่คุ้นชินกับการไหว้หรือสวัสดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป...ป้ารีบยกมือรับไหว้ทุกคนที่สวัสดีแกอย่างไม่เคอะเขิน พร้อมกับส่งยิ้มดีใจที่พวกเรามาเยี่ยม แล้วรีบเชิญชวนให้ขึ้นบ้าน จริง ๆ ป้าแกไม่รู้หรอกว่าการยกมือไหว้สวัสดี หมายถึงอะไร แต่เมื่อได้คุ้นเคยและได้ทำบ่อย ๆ ป้าเริ่มเข้าใจความหมายว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นความรู้สึกที่เราต่างไว้ใจซึ่งกันและกัน ไม่มีการระแวงแคลงใจใด ๆ เกือบลืมเล่าไปค่ะว่า การสวัสดี ของโผล่ง ไม่มีปรากฏชัดเจน เพียงแต่เมื่อเจอกันครั้งแรกของวันก็จะทักทายกันว่า 'โอ เหมอะ ชอง พา ฉี' (สบายดีมั้ย) หรือทักทายกันว่า กินข้าวหรือยัง วันนี้จะไปไหนกันละ ฯลฯ ส่วนขอบคุณ ก็จะใช้คำว่า 'ตะบลื้อ'

 
   ส่วนเด็กน้อยคนนี้รู้จักการไหว้ สวัสดีจากโรงเรียน เมื่อมีคนต่างที่มาก็จะยกมือไหว้ทักทายเสมอ แม้มันอาจจะไม่ถูกต้องตามแบบแผนการไหว้ของไทย แต่ก็น่ารักและประทับใจค่ะ 

"การสวัสดี การไหว้ และการขอบคุณ ไม่ว่าจะเชื้อชาติไหนหรือชนชาติใด ถ้าไหว้เพราะเกิดขึ้นมาจากความรู้สึกภายในจิตใจ ก็ทำให้ผู้ถูกรับไหว้ประทับใจเสมอ แต่หากมันไม่ได้เกิดจากใจ การไหว้ก็จะเป็นแค่สัญลักษณ์ของการไหว้เท่านั้นเอง"
  "การสวัสดีสำคัญไฉน อยู่ที่การสื่อสารผ่านความรู้ของผู้ไหว้และผู้รับไหว้???"

>>มือใหม่หัดบันทึกค่ะ<<