สวัสดีค่ะ
ดีใจ ที่บันทึกนี้มีประโยชน์ค่ะ
และดีใจด้วยที่คุณพ่อดีขึ้นค่ะ
บันทึกนี้อ้างอิงจากข้อเขียนของ ศ.นพ.ดร.วิจิตร บุณยะโหตระ สามีผู้เขียนเอง และได้รับอนุญาตแล้ว
อายุมี 3 ประเภทคือ
1. อายุตามปฎิทิน (Cronological age)
2. อายุตามชีวภาพ (Biological age) มองเห็นตามสภาพร่างกาย
3. อายุทางจิตวิทยา ( Psychological age) อายุตามที่เรารู้สึก
ร่างกายของมนุษย์เป็นเช่นเดียวกับทุกสรรพสิ่งในจักรวาล คือ มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยหยุดนิ่ง และมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้น ภายในร่างกายและจิตใจของเรา ตลอดเวลาเช่นกัน
Life is a process of constant transformation.
ตามหลักของวิทยาศาสตร์แควนตั้มฟิสิกส์ชี้ชัดว่า จักรวาล ไม่มีหยุดนิ่ง
เช่นเดียวกันกับ ในร่างกายของเรา มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นทุกวินาที ” เซลล์บุกระเพาะอาหารเกิดขึ้นใหม่ทุก 5 วัน เซลล์ผิวหนังเกิดใหม่ทุก 4 สัปดาห์ เซลล์ตับเกิดใหม่ทุก 6 สัปดาห์ โครงการกระดูกเกิดใหม่ทุก 3 เดือน ทุก ๆ ปี เซลล์ทั่วร่างกายเกิดใหม่แทนร่างกายเดิมของเราถึง 98%
เวลาผ่านไปหนึ่งปี ร่างกายของเราเสื่อมลงเพียง 1% เท่านั้น 99% ของพลังและสติปัญญา(energy and intelligence) ของมนุษย์ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
ดังนั้นเพียงแต่เรากำจัดความเสื่อมเพียง 1% ให้หมดไปได้ในแต่ละปี เราก็จะสามารถควบคุมประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายของเราได้อย่างดีตามที่ควรจะเป็น
ไม่ทรุดโทรมก่อนวัยอันควร
10. ดรรชนีวัดสุขภาพ (Biomarkers)
1.กล้ามเนื้อ ( lean body , muscle mass )
2.ความแข็งแรง ( strength )
3.อัตราการเผาผลาญ ( BMR )
4.ไขมัน ( body fat )
5.ความสามารถในเก็บออกซิเจน ( aerobic capacity )
6.ความดันโลหิต (blood pressure)
7.ระดับน้ำตาลในเลือด ( (blood sugar tolerance)
8.ไขมันในเลือด ( cholesterol / HDL ratio )
9.ความแน่นของกระดุก ( bone density )
10.การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย ( body temperature )
เมื่ออายุ 65 – 70 ปี คนเราจะมีไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้นสองเท่า ในขณะที่กล้ามเนื้อลดลงหนึ่งเท่าตัว จึงเกิดปัญหาเกี่ยวกับการเผาผลาญภายในร่างกาย ( metabolism )
เพราะไขมันเป็นตัวเก็บสำรองพลังงาน ( energy storage tissue )
แต่กล้ามเนื้อเป็นตัวใช้พลังงาน (energy spending tissue )
คนอ้วนจึงมี BMR ต่ำ ส่วนคนมีกล้ามเนื้อมาก BMR สูง และมีพลังชีวิต (vital energy ) สูง
การเพิ่มกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุจึงเป็นการเพิ่มพลังหนุ่มสาวนั่นเอง และเพียงเพิ่มกล้ามเนื้อเพียวอย่างเดียว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Biomarkers อื่นๆ ด้วย 10 วิธีหนีความแก่ 1.หลีกการเถียง
2.เลี่ยงการโกรธ
3.โปรดมองโลกในแง่ดี
4.มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่
5.เดินทางไกลในโลกกว้าง//เรียนรู้ตลอดชีวิต
6.อย่าสร้างภาระเพิ่มให้กับตัวเองโดยไม่จำเป็น
7.พบปะร้องเพลง//ทำตัวร่าเริง//มีสมาคมเพื่อนในโอกาสอันควร
8.รู้เกรงใจให้กับผู้อื่น พึ่งพาตนเองให้มาก
9.อย่าทำตัวเชย ล้าสมัย แต่งตัวให้ดูดี
10.หมั่นออกกำลังกาย
10 อาหารชะลอวัย 1.น้ำ วันละ 8 แก้วขึ้นไป , ชาเขียว มีสารเฟลโวนอยด์ ขจัดอนุมูลอิสสระ
2.ผัก หลากหลายสี ( 5 – 6 อุ้งมือ / วัน ) ผักตระกูลครูชิเฟอรัส - บร็อคเคอรี , ดอกกะหล่ำ , คะน้ามะเขือเทศ - มีสารไลโคฟีน ป้องกันมะเร็งปอด , ต่อมลูกหมาก
3.ผลไม้ หลากหลายสี ( 4 – 8 อุ้งมือ / วัน )
4.หอม – กระเทียม ลดคอเลสเตอรอล
5.ธัญพืชไม่ขัดสี
6.ถั่วเปลือกแข็ง ป้องกันมะเร็ง , โรคหัวใจ เช่น ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ , อัลมอนด์
7.ถั่ว ถั่วเหลือง ( สารไอโซเฟลโวนส์ ) ป้องกันมะเร็ง , ลดคอเลสตอรอล ถั่วแดง ถั่วเขียว , ถั่วดำ
8.โยเกริ์ต มีแคลเซียมสูง จับกรดน้ำดี เพิ่มจุลินทรีย์
9.ปลา 3 ครั้ง / สัปดาห์
10..เนื้อสัตว์ปีกสุกแล้ว
ถ้าเรามีพลังความตั้งใจ (intention power) เพื่อการดูแลรักษาสุขภาพและดูแลพลังสติปัญญา (energy & intelligence ) ของเราให้เต็ม 100 อยู่เสมอ
เพื่อความตั้งใจที่จะให้มีชีวิตที่แข็งแรงสมบูรณ์กระฉับกระเฉงอยู่เสมอทุกวันเป็นประจำ
การที่เราจะมีลาภอันประเสริฐ เพราะมีสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วยง่าย เป็นเรื่องอยู่แค่เอื้อมนี่เอง
มาเยี่ยมครับ จะนำไปปฏิบัติครับ
ขอขอบพระคุณอาจารย์ sasinanda...
อ่านแล้วได้ความรู้อีกเยอะเลยค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ หนีความแก่ไม่พ้นค่ะ แต่ชะลอได้ค่ะ 5555
หนูทราบจากดาวเรือง ว่าคุณเขียนบันทึกอยู่ที่นี่และน่าสนใจ เลยแวะเข้ามา ขอถามปัญหาค่ะ
คุณพ่อ early retire อยู่บ้าน แต่ดูโรยไป ช้ากว่าเดิม และดูไม่ค่อยแข็งแรง อ่านบันทึกนี้ ก็จะไปแนะนำคุณพ่อค่ะ ตรงให้คุณพ่อมีพลังใจให้เข้มแข็ง ตั้งใจให้ชีวิต ไม่เจ็บป่วยง่าย สุขภาพดีๆ
สุธี |
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะ
ดีใจ ที่บันทึกนี้มีประโยชน์ค่ะ
และดีใจด้วยที่คุณพ่อดีขึ้นค่ะ
ได้พบเวปไซด์นี้นับว่าโชคดี ดิฉันได้ทำเวปให้เพื่อน ๆ อ่านและคนอื่นที่อ่านเวปของดิฉันก็ได้มีความรู้ในเวปนี้ด้วย สำหรับผู้ต้องการมีลาภอันประเสริฐอย่างแท้จริง
ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ
แต่อยากได้วิธีการเพิ่มกล้ามเนื้อค่ะ ไม่ทราบว่าปฏิบัติตามวิธีหนีความแก่ หรือ อาหารชะลอวัยเพียงพอหรือไม่ค่ะ
เข้ามาวัดดัชนีด้วยคนครับ
ชอบวิธีหนีความแก่ทุกข้อครับ
ขอบคุณครับ
ขอบพระคุณค่ะ ดิฉันอ่านหัวข้อเหล่านี้ให้พ่อฟังท่านชอบใจและสนใจค่ะมาก บอกให้ดิฉันพิมพ์ตัวใหญ่ๆแปะฝาไว้เตือนความจำ :))
ดิฉันฟังท่าบรรยายบ่อยค่ะ ทjานแข็งแรง สดชื่น ความคิดความอ่าน ลื่นไหล สมาร์ทมากค่ะ
เป็นคนที่ทุกคนเห็นต้องบอกว่า รักษาสุขภาพได้อย่างยอดเยี่ยมค่ะ
เป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ
ผมเคยไปฟังท่านบรรยายที่จุฬา เรื่องการเรียนรู้ภายในตนเองด้วยสมาธิ ดีมากครับ ผมกำลังปฏิบัติอยู่ มีความคืบหน้าพอควร
บันทึกนี้ มีประโยชน์ในการดูแลสุขภาพมากครับ
วันนี้ตัดสินใจที่จะนั่งทำงานอีกสักครู่ใหญ่ ๆ ปล่อยให้คุณแม่บ้านพาเจ้าตัวซนไปเล่นน้ำตามที่เขาต้องการ
....
หลีกการเถียง : บางครั้งการที่คนเราพยายามชี้แจงอะไรสักอย่างให้กับผู้บังคับบัญชา โดยปราศจากน้ำเสียงที่ขุ่นมัว แต่กลับถูมองภาพในมุมกลับว่าเป็นการโต้เถียง นี่คือระดับชั้นของการปกครองที่ผมเห็นภาพบ่อยครั้งและอดสงสารคนตัวเล็ก ๆ ไม่ได้ ...
โปรดมองโลกในแง่ดี : ดูเหมือนจะเป็นกระบวนการอันสำคัญที่สุดในขณะนี้ที่ผมกำลังเพียรพยายามที่จะจัดการกับทุก ๆ เรื่องที่เข้ามาสู่ตัวเอง ...
อย่าสร้างภาระเพิ่มให้กับตัวเองโดยไม่จำเป็น : ผมประสบปัญหาข้อนี้มากพอสมควร เพราะปฏิเสธคนอื่นไม่ค่อยได้ หลายอย่างเลยอีรุงตุงนังอยู่ไม่น้อย
พบปะร้องเพลง : อันนี้ยิ่งลำบากหนักเข้าไปใหญ่ เพราะร้องเพลงไม่เป็นเลยก็ว่าได้ แต่ชอบฟัง และนั่งฟังได้นาน ๆ
อย่าทำตัวเชย ล้าสมัย แต่งตัวให้ดูดี : อันนี้ก็หนักหนา เพราะผมไม่สันทัดกับเรื่องพรรค์นี้ สบาย ๆ ... และง่าย ๆ ชอบนอกกรอบ ซึ่งหมายถึงชอบสะพานย่าม ใส่หมวก ..ออก ๆ ศิลปิน มากกว่าอยู่ในชุดพิธีการ
หมั่นออกกำลังกาย : ไม่ว่าง ..หรือยังไม่ว่าง นั่นคือข้ออ้างที่ผมอ้างกับตัวเองจนชิน ....
.....
ขอบพระคุณครับ
สวัสดีค่ะป้าป้อม
เอ ชื่อนี้คุ้นมาก เพราะ ชื่อป้อม เป็นชื่อพี่สาวของดิฉันเอง แต่ก็เป็นคนละคนแน่ค่ะ เพราะพี่สาว ไม่เขียนบันทึกค่ะ
บันทึกนี้ ดิฉันไปขอมาจากคุณหมอวิจิตรฯค่ะ จริงๆแล้วมีรายละเอียดมาก แต่ดิฉันมาย่อเอาเอง
คุณหมอเป็นคนที่เชื่อในพลังชีวิตป็นอย่างมาก การที่คนสูงอายุ มีความรู้สึกว่า ตนเองหมดค่า หลังเกษียณแล้ว เป็นการทำลายพลังชีวิตของตนเองให้หมดไป
ดังนั้น เราจึงต้องทุ่มเทพลังความตั้งใจ-intention power-เพื่อการดูแลรักษาพลังและสติปัญญา-energy and intelligence-ให้เต็ม 100 อยู่เสมอ
ในทางตะวันออก เรียกการไหลเวียนของ intelligenceนี้ว่า พลังปราณ-prana-หรือ ชี่-chi ซึ่งจะไปกระตุ้นเซลล์ทุกเซลล์ ในทุกระบบของร่างกาย ให้มีพลังชีวิตที่สมบูรณ์อยู่เสมอ โดยเชื่อมโยงพลังชีวิตภายใน เข้าเป็นหนึ่งเดียวกับพลังจักรวาล ภายนอกค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ชุลีรัตน์คะ
วิธีการเพิ่มกล้ามเนื้อ รู้สึกว่า จะมีเขียน แต่ตอนนี้ คุณหมอไปต่างประเทศ ขอติดไว้ก่อนนะคะ แล้วจะแจ้งไปค่ะ ขอบคุณที่สนใจค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพลเดช
25. พลเดช วรฉัตร
มีเรื่องที่น่าสนใจของโยคี ด้วยค่ะในบทความนี้
ในความคิดแบบเก่า -old paradigm-
DNA เป็นตัวควบคุมชีวิต แต่ในแนวคิดใหม่ ความเชื่อ ความคิด มีบทบาท เป็นตัวควบคุมชีวิตไม่น้อยค่ะ
โยคี สามารถสามารถควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ ควบคุมความดันโลหิต และระบบต่างๆของร่างกายด้วยการทำสมาธิ ใช้สมาธิควบคุมจิต และใช้พลังจิตควบคุมระบบร่างกายโดยรวมจิตกับกายให้เป็นหนึ่งเดียว และรวมจิตภายในกับจิตภายนอก (จักรวาล) ให้เป็นหนึ่งเดียวด้วย
สวัสดีค่ะ
26. พิสูจน์
อาจารย์บอกว่า...
ขอบคุณค่ะ และคุณหมอเขียนไว้ว่า...
สารเคมีที่กระตุ้นให้เกิดความคิด ไม่ได้มาจากสมองแหล่งเดียวค่ะ
อวัยวะอื่นๆก็ ผลิตสื่อประสาทได้ (neurotransmitters) ได้เช่นกัน เช่น ที่ผิวหนัง กระเพาะอาหารลำไส้และหัวใจเป็นต้น จากการวิจัยพบว่า ผิวหนังของเราผลิตฮอร์โมนในปริมาณมากกว่าต่อมไร้ท่อเสียอีก
เม็ดลือดขาวมีreceptors คอยรับสารสื่อประสาทได้เช่นกัน บางคนจึงเรียกเม็ดเลือดขาวว่า "สมองลอยน้ำ"
ขอบคุณๆ oui ที่เข้ามาเยี่ยมและยังนำไปแปะฝาไว้เตือนความจำให้คุณพ่อด้วย
ก็เลยอยากจะต่อว่า คุณหมอวิจิตรบอกว่า สารเคมีที่กระตุ้น Intelligenceของคนเรา นอกจากจะมาจากสมองแล้ว ยังมาจากการกระตุ้นผิวหนังด้วยการถูตัวด้วยค่ะ
ถ้าเราคิดว่า ร่างกายเรา มีการเกิดใหม่ของเซลล์ตลอดเวลา
เราจะมีกำลังใจในการปรับปรุงและเกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆเกิดขึ้นเสมอ ต่อเนื่องไปได้อีกนานๆค่ะ
ตอบ รศ.ดร. ชุลีรัตน์ จรัสกุลชัย ค่ะ
ที่บอกว่าอยากได้วิธีการเพิ่มกล้ามเนื้อค่ะ
คุณหมอวิจิตรฯฝากบอกว่า...
ที่คณะแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยทัฟท์ (Tuft University)ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาผู้สูงอายุที่มีกล้ามเนื้อและร่างกายอ่อนแอ จึงได้แนะนำโปรแกรมยกน้ำหนัก (weight training)สัปดาห์ละ 3 ครั้ง นาน 8สัปดาห์ ปรากฏว่า กล้ามเนื้อที่ปวกเปียกกลับแข็งแรงขึ้น 300% รวมทั้งเกิดความสมดุลของร่างกายและประสาทสัมผัสคืนสู่ประสิทธิภาพอีกครั้งหนึ่งค่ะ
ขอบคุณค่ะ คุณ ออมทอง
ที่แวะเข้ามาบอกว่า ไปฟังคุณหมอบรรยายหลายครั้ง
คุณหมอเคยบรรยายว่า..
ธรรมชาติสร้างมนุษย์ให้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลสากลและเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาลทั้งร่างกายและจิตใจ ร่างกายเราเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างจักรวาล---uinversal body---และจิตใจเราก็เป็นส่วนหนึ่งของจิตใจจักรวาล---universal mind---ทุกเซลล์ในร่างกายเป็นส่วนย่อของจักรวาล ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณสุชัย
ขอบคุณที่บอกว่า...บันทึกนี้ มีประโยชน์ในการดูแลสุขภาพมากครับ
คุณหมอฝากบอกว่า หัวใจของความสำเร็จในการดูแลตัวเองให้แข็งแรงสมบูรณ์อยู่เสมอ คือ การมีความเชื่อมั่นในตัวเอง และเชื่อในผลที่จะตามมา...Belief yourself and belief in the outcome you want...
เพราะความเชื่อจะไปเพิ่มภูมิชีวิต ซึ่งเป็นหัวใจในการควบคุมการทำงานของร่างกายค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ แผ่นดิน
คุณพนัส เป็นผู้มีความคิดความอ่านลึกซึ้ง ละเมียดละไม
ชีวิตของใคร เป็นของผู้นั้น กำไว้ในกำมือตนเองด้วยอิสระภาพสูงสุด และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ค่ะ
ประสบการณ์ของคุณพนัสมีมากพอที่จะ เกิดปัญญาขึ้นได้ด้วยตนเอง ว่าอะไร เหมาะสำหรับเราที่สุดค่ะ และดีที่สุดค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์
ขออนุญาติเรียกคุณพี่เลยนะคะ ชอบมากเลยค่ะหัวข้อนี้ ขอบคุณมากค่ะที่กรุณาแนะนำให้อ่าน อาจารย์หมอวิจิตร ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว เพิ่งทราบว่าภรรยาท่านสวยขนาดนี้ ดีใจมากเลยค่ะที่ได้มีโอกาสอ่านบทความที่มีประโยชน์อย่างนี้ ขออนุญาตินำไปปฏิบัติต่อเลยนะคะ บางส่วนทำอยู่ค่ะ แอโรบิก โยคะ 3 วันต่อสัปดาห์ และรับประทานอาหารที่ชะลอวัย อันนี้ชอบมากค่ะ
สวัสดีค่ะ
ถ้าเป็นประโยชน์ ก็เชิญนำไปใช้เลยค่ะ
ไม่ได้ยอกันเองนะคะ คุณหมอเป็นผู้หนึ่งที่ ดูแลตัวเองอย่างดีมาก เป็นธรรมชาติด้วยค่ะ ใครๆต้องชมทุกคน ที่เห็นตัวจริงค่ะ ยังสุขภาพดีค่ะ
ดีใจที่คุณก็ชอบเรื่องสุขภาพเหมือนกันค่ะ
ดีมากและควรปฏิบัติด้วยจะได้ผลทั้งปัจเจกบุคลและช่วยลดงบประมาณด้านสุขภาพให้ประเทศชาติด้วย เพราะเมื่อประชาชนสุขภาพดีมีความสุขก็ไม่ต้องกินยาและไปหาหมอให้สิ้นเปลือง รัฐควรให้รางวัลชมเชยกับผู้ที่มีการใช้จ่ายงบการรักษาพยาบาลตำในช่วงของอายุ 60ขึ้นไปเพื่อเป็นตัวอย่างในการประพฤติปฏิบัติตนในการดำเนินชีวิตด้วย
สวัสดีค่ะคุณสาย
รัฐควรให้รางวัลชมเชยกับผู้ที่มีการใช้จ่ายงบการรักษาพยาบาลตำในช่วงของอายุ 60ขึ้นไปเพื่อเป็นตัวอย่างในการประพฤติปฏิบัติตนในการดำเนินชีวิตด้วย
ขอบคุณที่มาอ่านและให้ข้อคิดที่ดีค่ะ เป็นข้อเสนอแนะที่น่าคิดจริงๆนะคะ