ตอนผู้เขียนบวชใหม่ๆ ก็ประมาณ ๒๐ กว่าปีก่อน มีพ่อท่านรูปหนึ่งพูดให้ฟังทำนองว่า...
ฟ้าชายสิทธัตถะ บำเพ็ญบารมีธรรมจากหลับไหลมาเป็น ตื่น... คนเราเมื่อ ตื่น จึง รู้ ...ดังนั้น พุทโธ จึงแปลว่า ตื่นรู้
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม เริ่มตั้งแต่ทรงโปรดฤาษีเบญจวัคคีย์...ซึ่งฤาษีเหล่านี้และสาวกอื่นๆ ครั้นได้ฟังธรรมแล้วก็ ตื่น จากหลับไหลเช่นเดียวกัน เพราะเหตุที่มิได้ตรัสรู้เอง แต่ฟังธรรมตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงจึงรู้แจ้งเห็นจริงตามพระพุทธเจ้า ...บรรดาสาวกเหล่านี้เรียกว่า อนุพุทธ จึงแปลว่า ตื่นตาม คือ ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า
แต่ปัจจุบันนี้ ตื่นตูม นั่นคือ พอมีอะไรดังขึ้น คนก็เห่ไปที่นั้น พอพระเครื่องหรือศักดิ์สิทธิ์อะไรดังขึ้นมา คนก็เห่ไป พยายามเสาะแสวงหาเพื่อให้ได้มา....ทำนองนี้ เค้าไม่เรียกว่า ตื่นรู้ หรือตื่นตาม แต่เป็น ตื่นตูม...
แม้ว่าเรื่องนี้พระเถระ ท่านจะเล่าเชิงแนะนำผู้เขียนมาไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปีแล้ว (สมัยนั้น โทรทัศน์ยังไม่มีในวัดตามท้องถิ่นที่ผู้เขียนอยู่ กระดาษทิชชู่ยังไม่เป็นที่รู้จักสำหรับในวัด)...
อันที่จริงโลกก็พัฒนา เจริญกว่า ยุคเมื่อ ๒๐ ปีก่อนมากแล้ว แต่รู้สึกว่า กระแสตื่นตูมยังคงมีอยู่เสมอ และยิ่งนับวันรู้สึกว่ายิ่งตรงกันข้าม คล้ายๆ กับเป็นการแปรผันผกผัน นั่นคือ โลกพัฒนาเพื่อความสะดวกสบายทางวัตถุยิ่งขึ้น แต่ที่พึ่งทางใจของคนกลับหลงเชื่อต่อสิ่งลึกลับที่พิสูจน์ไม่ได้เชิงประจักษ์ทำนองวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น....
ดังนั้น ผู้เขียนจึงต้องนำเรื่อง ตื่นรู้ ตื่นตาม ตื่นตูม จตุคาม (อีกครั้ง) มาบอกเล่า เพราะเรื่องนี้ยังทันสมัย ยังไม่ล้าสมัย...
หมายเหตุ เรื่องนี้ ผู้เขียนคิดได้เมื่อวาน คิดว่าจะเขียนเมื่อคืน แต่ยับยั้งไว้ วันนี้เจอคำบอกเล่าหลายๆ เรื่อง จึงเป็นแรงกระตุ้นให้เขียนเรื่องนี้...
คุณโยมก็สามารถตรวจสอบและพิจารณาตัวเองได้...
อาตมาก็เพียงแต่เตือนสติเท่านั้น....
เจริญพร
กราบนมัสการหลวงพี่ครับ
กราบสามครั้งครับ
นมัสการค่ะ
ดิฉันเป็นคริสต์ (นิกายโรมันคาทอลิค) แต่เชื่ออยู่เสมอว่าจตุคามไม่ใช่พุทธ และกระแสจตุคามเป็นไปตามกระแสวัตถุนิยม ขอบพระคุณพระอาจารย์ (ขอเรียกอาจารย์นะคะ)
ความเห็นที่ว่า จตุคามไม่ใช่พุทธ
ตามความเห็นของคุณโยมก็ต้องให้ความหมาย พุทธ ว่าเป็นอย่างไร ? ....ซึ่งอาตมาก็ไม่ต้องการชักเข้าสู่การถกเถียง...
ตามความเห็นส่วนตัว...กรณีจตุคามก็เป็นความเคลื่อนไหวทางพระพุทธศาสนาในประเทศไทยในขณะนี้เท่านั้น...
ตั้งแต่ อาตมาบวชมายี่สิบกว่าปี... มีกระแสทางพระพุทธศาสนาหลายกรณี เช่น
กรณีพระโพธิรักษ์และสันติอโศก
กรณีพระยันตระ
กรณีพระนิกร
กรณีธรรมกาย
....ฯลฯ.....
ส่วนกรณีพุทธทาส เป็นต้น เกิดขึ้นก่อนอาตมาบวช แต่อาตมาก็ถือว่าอยู่ในยุคร่วมสมัย......
กระบวนการทางศาสนาเหล่านี้ สะท้อนถึงความต้องการบางอย่างของคนในสังคม....
ตามที่ว่ามานี้ เฉพาะยุคปัจจุบันในเมืองไทยเท่านั้น....
ซึ่งประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาที่ยาวนาน มีกระบวนการเกิดขึ้นมากมาย....
เช่นเดียวกับศาสนาอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน
เจริญพร
นมัสการครับ
พุทธัง ผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน
กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ
กราบนมัสการลาครับ